พ่อพันธุ์ สนุขพันธุ์ไทยหลังอาน แม่พันธุ์ สนุขพันธุ์ไทยหลังอาน ลูกสุนัข สนุขพันธุ์ไทยหลังอาน รวมภาพ สนุขพันธุ์ไทยหลังอาน ติดต่อกับเรา สนุขพันธุ์ไทยหลังอาน  
เพชรเมืองสยาม
ไทยหลังอาน
   
ถิ่นกำเนิดของสายพันธุ์
    ถิ่นกำเนิด     จังหวัดจันทบุรี จังหวัดตราด ประเทศไทย
มาตรฐานสายพันธุ์
    น้ำหนัก     51-75 ปอนด์
    ส่วนสูง     ตัวผู้ 56-61 เซนติเมตร, ตัวเมีย 51-56 เซนติเมตร
    ลักษณะขน     สั้นเรียบ
    สีขน     สีเดียวทั้งตัว สีน้ำตาลแดง, สีแดง, สีดำ หรือ สีสวาด
    จัดอยู่ในกลุ่ม     กลุ่มสุนัขล่าเนื้อ (Hound)
    จัดอยู่ในประเภท  
พันธุ์สุนัข
   
ไทยหลังอาน (Thai Ridgeback) เป็นสุนัขพันธุ์พื้นเมืองเก่าแก่ของประเทศไทย มีขนาดกลาง ขนสั้น หูตั้งเป็นรูปสามเหลี่ยม ปลายจมูกสีดำและจะงอยปากแหลมยาว หางเรียวยาวเป็นรูปดาบ ลักษณะเด่นคือมีอานซึ่งเกิดจากขนอยู่บนแนวหลัง ถิ่นกำเนิดของสุนัขพันธุ์ไทยหลังอานอยู่ในภาคตะวันออก แถบจังหวัดจันทบุรีและตราด คนพื้นเมืองใช้สุนัขพันธุ์นี้ล่าสัตว์และติดตามเกวียนเพื่อคอยระวังภัย ระบบการคมนาคมที่ยังไม่ดีในสมัยก่อนทำให้ไทยหลังอานสามารถคงลักษณะดั้งเดิมอยู่ได้นาน

มาตรฐานสายพันธุ์และสีของไทยหลังอาน ปัจจุบันได้รับการยอมรับอยู่ 3 สี คือ

      • สีน้ำตาลแดง หรือ สีแดง
      • สีดำปลอด
      • สีสวาด หรือ สีกลีบบัว

นอกจากนี้ยังมีสีหรือลวดลายอื่น ๆ ด้วย แต่ยังไม่ได้รับการยอมรับ เช่น ลายเสือโคร่ง เป็นต้น
ถิ่นกำเนิดสุนัขไทยหลังอาน

สุนัขไทยหลังอานถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกนี้ได้อย่างไร มีการวิเคราะห์และศึกษาจากผู้รู้คิดว่าสุนัขไทยหลังอานน่าจะมาจากสุนัขใน กลุ่ม Wolf และ Jackal สุนัขไทยหลังอานเป็นสุนัขพันธุ์พื้นเมืองที่อยู่ในย่านเอเชียตะวันออกในเขต ร้อน ซี่ง สุนัขพื้นเมืองในเขตนี้จะดูมีลักษณะคล้ายๆ กัน เช่น สุนัขในประเทศลาว เวียดนาม กัมพูชา พม่า มาเลเซีย บางแถบของประเทศจีน สุนัขในแถบนี้จะมีกระโหลกศีรษะเป็นสามเหลี่ยมรูปลิ่ม มีกรามใหญ่ที่แข็งแรง มีหูทั้งสองข้างตั้งชัน มีเส้นหลังตรง มีหางตั้งยกขึ้นเหมือนดาบหรือเคียว

แต่สุนัขไทยหลังอานจะมีลักษณะพิเศษเฉพาะคือมีขนที่เส้นหลังย้อนกลับที่ เส้นกลางหลัง ที่สุนัขสายพันธุ์อื่นๆ ของประเทศต่างๆ ไม่มี และนี่จึงเป็นที่มาของสุนัขไทยหลังอาน

จากงานวิจัยของร.ศ. สุรวิช วรรณไกรโรจน์ อาจารย์ประจำคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้พบรอยเขียนภาพตามผนังถ้ำในยุคหินใหม่อายุราว 2000 ปี ที่จังหวัดนครราชสีมาและอุทัยธานี เป็นรูปสุนัขหูตั้งหางดาบ สีพื้นยืนคู่กับพรานธนูและลายเสือ แต่ไม่พบว่ามีการบันทึกเรื่องราวของ
สุนัขไทยหลังอานก่อนรัชสมัยรัชกาลที่ 9 เพราะสมุดข่อยยุคต้นรัตนโกสินทร์ที่กล่าวถึงสุนัขมงคลก็ไม่ได้กล่าวถึงสุนัข หลังอานหรือสุนัขที่มีขนย้อนกลับบนแผ่นหลังแต่ประการใด ทั้งนี้สมุดข่อยโบราณซึ่งถูกอ้างว่ามีอายุ 300 กว่าปีมาซึ่งมีใจความว่า "สุนัขตัวมันใหญ่ มันสูงเกินสองศอก มีสีต่างๆ ไม่ซ้ำกัน มันมีขนที่หลังกลับ มันร้ายมันภักดีต่อผู้เลี้ยงมัน มันหากินขุดรูหาสัตว์เล็กๆ มันชอบตามผู้เลี้ยงไปป่าหากิน มันได้สัตว์ มันจะนำมาให้เจ้าของ ถึงต้นยางมีน้ามัน มันมีกำลังกล้าหาญไม่กลัวใคร ธาตุสีทั้งหลาย รัชตะชาด มันมีโคนหาง มันมีหางเป็นดาบชาวป่า ถ้าผู้ใดมีไว้ในครอบครองจะได้รับความภักดีจากมัน"นั้นได้ถูกนำไปให้ผู้ เชี่ยวชาญภาษาโบราณของหอสมุดแห่งชาติอ่านในปี พ.ศ. 2539 แล้วไม่พบข้อความที่กล่าวอ้างแต่ประการใด ทั้งนี้ผู้วิจัยได้ศึกษางานวิจัยของนักประวัติศาสตร์ชาวซิมบับเวแล้วให้ ข้อมูลทางพันธุศาสตร์ตั้งสมมติฐานว่าสุนัขทีมีลักษณะหลังอานซึ่งเป็น บรรพบุรุษของสุนัขพันธุ์ไทยหลังอานน่าจะถือกำเนิดขึ้นจากการกลายพันธุ์จาก สุนัขพันธุ์ปกติซึ่งไม่มีอานเมื่อไม่น้อยกว่า 2500 ปีมาแล้วในอาณาจักรฟูนัน แล้วสุนัขพันธุ์ดังกล่าวจึงได้ถูกเผยแพร่ไปยังอินเดียและโรดีเชียในเวลาต่อ มา จนเป็นต้นกำเนิดของสุนัขหลังอานพันธุ์ Ari ของชนเผ่า Hottentot และสุนัขหลังอานพันธุ์ผสม Rhodesian ridgeback
อย่างไรก็ตามสุนัขไทยหลังอานถูกจัดให้เป็น"สุนัขประจำชาติไทย" โดยเป็นสุนัขที่สามารถช่วยปกป้องเตือนภัย ดูแลทรัพย์สิน และช่วยยังชีพในการออกป่าล่าสัตว์ ของคนไทยมาแต่โบราณกาล เราจะสามารถพิสูจน์ได้ว่า สุนัขไทยหลังอานของเราเคยอยู่คู่กับคนไทยเรามาตั้งแต่นมนาน ได้โดย ถ้าเราไปตามที่ชุมชนดั้งเดิมที่ยังมีการรักษาวัฒนธรรมไทยมาแต่ปู่ย่า ตายาย หรือ ตามพื้นที่นอกปริมณฑล เมื่อชาวบ้านเห็นสุนัขไทยหลังอาน พวกเขาจะเรียกชื่อสุนัขไทยหลังอาน กันอีกชื่อหนึ่งว่า "หมาพราน" เราจะเห็นได้ว่าสุนัขไทยหลังอานเราจะมีความสามารถพิเศษเฉพาะมากมาย ที่สุนัขสายพันธุ์อื่นไม่มีเหมือนหรือเปรียบเทียบได้เลยกับสุนัขไทยหลังอาน ของเรา ไม่ว่าจะเป็น "สายพันธุ์แท้ดั้งเดิม" ที่มีการพัฒนาด้วยตัวของมันเองมาแต่โบราณกาล มาจนถึงกระทั่งทุกวันนี้ ซี่งพึ่งมีคนหันมาให้ความสนใจในสุนัขไทยหลังอานและนำมาพัฒนาพันธุ์เมื่อไม่ นานมานี้
 
 
Copyright © All rights Reserved.